รากฟันเทียมระบบ All on 4 คืออะไร
ระบบรากฟันเทียม All-On-4/ProArch เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยทำให้ฟันปลอมทั้งปากของคุณแน่นขึ้น โดยทันตแพทย์จะใช้สกรูเพื่อยึดฟันปลอมของคุณเข้ากับแกนหลักยึดบนรากฟันเทียม ดังนั้นคุณต้องกลับมาพบทันตแพทย์เพื่อถอดออกมาทำความสะอาด ดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง
โดยหลักการของระบบ All-on-4/ProArch เป็นการทดแทนฟันทั้งขากรรไกรโดยใช้รากเทียม 4 ราก (อย่างน้อย) รากฟันเทียม 2 รากด้านหลังจะถูกฝังแนวเอียงทำมุม 4 5องศา มาทางด้านหน้าเพื่อใช้ประโยชน์จากกระดูกขากรรไกรด้านหน้าซึ่งมักจะมีมากกว่าด้านหลัง ซึ่งหากจะฝังในแนวปกติจะจำเป็นต้องปลูกกระดูกเพิ่มเติม

รากฟันเทียม ProArch คืออะไร ต่างจากรากเทียม All on 4 อย่างไร?
หลักการของ All-On-4 คือ การใส่ฟันบนรากฟันเทียม 4 ราก ทันทีในสันเหงือกว่างเปล่าหรือมีแผนกำลังถอนฟันออกทั้งขากรรไกร ข้อเด่นของวิธีนี้คือผู้ป่วยจะมีฟันทดแทนทันทีหลังถอนฟัน โดยบริษัทรากฟันเทียมแรกที่คิดวิธีนี้คือ Nobel Biocare และตั้งชื่อวิธีนี้ว่า All-on-4 เนื่องจากเริ่มจากการใช้รากฟันเทียม4ราก รับฟันปลอมทั้งขากรรไกรนั่นเอง
รากฟันเทียม ProArch ของบริษัท Straumann ใช้หลักการพื้นฐานเหมือนกันกับ All-on-4 แต่ไม่ได้สนับสนุนการเอียงรากฟันเทียมด้านหลังมาข้างหน้าและไม่จำกัดการใช้รากฟันเทียมเพียง 4 ราก ต่อขากรรไกร อีกทั้งยังมีรากฟันเทียมรุ่นSLActive และBLX ที่ช่วยเรื่องการเหนี่ยวนำเซลล์กระดูก จึงเพิ่มผลสำเร็จในการรักษาและลดระยะเวลาการรอตอยลง
Nobel Biocare และ Straumann ล้วนเป็นบริษัทรากฟันเทียมระดับโลก

รากฟันเทียมระบบ ProArch® ยี่ห้อ Straumann
- Titanium SLActive
- Roxolid SLActive (แนะนำ)
- BLX SLActive
ข้อดี-ข้อเสียของรากฟันเทียมแต่ละแบบ
ฟันปลอมทั้งขากรรไกรชนิดถอดได้มีค่าใช้จ่ายที่ถูกที่สุดในการทดแทนฟันทั้งขากรรไกร บริษัทประกันส่วนใหญ่ให้ความคุ้มครอง จึงมักเป็นทางเลือกในการใส่ฟัน ซึ่งฟันปลอมชนิดนี้ดูสวยงามและพอใช้เคี้ยวอาหารได้บ้าง
ฟันปลอมทั้งขากรรไกรแบบถอดได้มีข้อจำกัดค่อนข้างมาก ต้องมาพบทันตแพทย์หลายครั้ง ทำให้แน่นค่อนข้างยาก อีกทั้งเหงือกและกระดูกมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปตามกาลเวลา จึงมีความจำเป็นต้องมาปรับ/เปลี่ยนฐานฟันปลอมเพื่อให้กระชับอยู่เรื่อยๆ ฟันปลอมอาจหลวมหลุดกระทบกันจนเกิดเสียงขณะกินข้าวหรือพูดคุย ซึ่งต้องใช้เวลาในการปรับตัวเพื่อให้คุ้นชินกับการใช้งาน ต้องตัดแบ่งอาหารเป็นชิ้นเล็กๆก่อนใช้ฟันปลอมเคี้ยวอีกด้วย
เมื่อใช้รากเทียมร่วมด้วย จะทำให้ฟันปลอมของคุณแน่นกว่า จึงช่วยเพิ่มความมั่นใจในการพูดคุยและบดเคี้ยวอาหาร

ฟันปลอมทั้งปากชนิดถอดได้
ข้อได้เปรียบ
- ราคาถูกที่สุด
- ทำความสะอาดง่าย
ข้อจำกัด
- มีโอกาสหลวมหลุดได้ อาจต้องใช้กาวติดฟันปลอมช่วย
- เป็นฟันปลอมชนิดถอดได้

รากฟันเทียมระบบAll-on-4
ข้อได้เปรียบ
- เป็นฟันปลอมที่ใส่บนรากฟันเทียมได้ทันทีหลังการฝังรากฟันเทียม
- ใช้เวลาน้อยกว่ารากฟันเทียมแบบอื่นๆ
ข้อจำกัด
- ต้องพยายามทำความสะอาดใต้ฟันปลอมเป็นประจำทุกวันเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเศษอาหารติดอยู่ และยังต้องพบทันตแพทย์ประจำปีเพื่อการทำความสะอาดที่สมบูรณ์เพื่อให้เหงือกและกระดูกมีสภาพสมบูรณ์แข็งแรง
- ฟันปลอมชุดแรกที่ใส่ทันทีหลังฝังรากฟันเทียม ยังคงเป็นชุดชั่วคราวและจำเป็นต้องเปลี่ยนอีกครั้งให้เป็นวัสดุที่แข็งแรงสวยงามขึ้นเพื่อการใช้งานในระยะยาว

สะพานฟันทั้งขากรรไกรบนรากฟันเทียม
ข้อได้เปรียบ
- เป็นการทดแทนฟันทั้งขากรรไกรแบบอุดมคติ รากฟันเทียมทำหน้าที่เหมือนรากฟันธรรมชาติรองรับสะพานฟันเซรามิคได้อย่างมั่นคงแข็งแรง
- เคี้ยวอาหารได้เหมือนฟันธรรมชาติ
- เป็นฟันปลอมชนิดติดแน่นที่ทำความสะอาดได้เหมือนฟันธรรมชาติ
ข้อจำกัด
- แม้จะเป็นทางเลือกที่ดี แต่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก
- สภาวะกระดูกต้องสมบูรณืเพียงพอในการฝังรากฟันเทียมในตำแหน่งต่างๆ

ฟันปลอมชนิดถอดได้ร่วมกับรากฟันเทียม
ข้อได้เปรียบ
- ค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดในการใช้รากฟันเทียมร่วมกับฟันปลอมเพื่อทดแทนฟันทั้งขากรรไกร
- ช่วยให้ฟันปลอมแน่นขึ้น
ข้อจำกัด
- ยังคงเป็นฟันปลอมชนิดถอดได้และจำเป็นต้องระมัดระวังเวลาเคี้ยวอาหารอยู่
ขั้นตอนการทำรากเทียมระบบ All on 4/ProArch
รากฟันเทียมระบบ All-on-4/ProArch เป็นการทดแทนฟันทั้งขากรรไกรพร้อมใช้งานได้ใน1วัน เดินทางมาเพียงทริปเดียวคุณจะได้ทั้งรากฟันเทียมและฟันปลอมกลับไปหลังการรักษา
ด้านล่างคือขั้นตอนการทำ All-on-4/ProArch และฟันปลอม :
- ตรวจช่องปาก ถ่ายภาพรังสี 2มิติ/ 3มิติและวางแผนการรักษา
- พิมพ์ปากเพื่อทำฟันปลอมและแนวนำการฝังรากฟันเทียม
- ในวันทำการรักษา จะมีการถอนฟัน ปลูกกระดูก (ถ้าจำเป็น) และฝังรากฟันเทียม
- จากนั้นจะพิมพ์ปากเพื่อบันทึกตำแหน่งแกนฟันเทียมและใส่ฟันปลอมในวันเดียวกันหรือวันรุ่งขึ้น
ฟันปลอมทั้งขากรรไกรบนรากฟันเทียมระบบ All-on-4/ProArch บางครั้งเราเรียกเป็นสะพานฟันไฮบริดหรือฟันปลอมไฮบริด (มีการผสมกันระหว่างและคลิลิคและโครงโลหะเพื่อให้แนบกระชับกับแกนฟันเทียมและเพิ่มความแข็งแรง) ลักษณะสำคัญคือการมีฟันปลอมทั้งขากรรไกรวางบนโครงสร้างฟันปลอมเดียว ในการทำ All-on-4/ProArch โดยส่วนมากเราจะใช้ฐานฟันปลอมอะคลิลิกในชุดแรกก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเปนแบบไฮบริดซึ่งรับพอดีกับรากฟันเทียมมากกว่า
หลังจากรอกระดูกยึดติดกับรากฟันเทียมอย่างสมบูรณ์ประมาณ 6 เดือนแล้ว เราจะแนะนำให้เปลี่ยนชุดฟันปลอมที่มีความแข็งแรงและสวยงามยิ่งขึ้นเพื่อความสมบูรณ์ในการใช้บดเคี้ยวอาหารและการใช้งานในระยะยาวต่อไป
อาจจะมีบ้างในบางกรณีที่ไม่สามารถใส่ฟันปลอมแบบติดแน่นในระบบ All-on-4/ProArch ได้ทันทีเนื่องจากสภาพกระดูกมีน้อยเกินกว่าที่คาดไว้มาก ซึ่งเราจะให้ใส่ฟันปลอมทั้งขากรรไกรชนิดถอดได้ทดแทนไปก่อนและรอประมาณ 6 เดือนและกลับมาเปลี่ยนเป็นฟันปลอมชุดถาวรทีเดียว
ทันตแพทย์เฉพาะทางด้านรากฟันเทียมและการผ่าตัดในช่องปากที่ BIDH มีประสบการณ์และเทคนิคที่ดีเลิศ ได้ผ่านการรักษาเคสซับซ้อนอย่างต่อเนื่องมาแล้วกว่า 10 ปี เพื่อที่จะให้ได้ผลลัพธ์ทางการรักษาที่ประสบความสำเร็จจึงอาจมีการแนะนำให้เปลี่ยนแผนการรักษาตามสภาวะต่างๆในช่องปากของผู้ป่วยโดยตรง แม้ว่าปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีช่วยในการวินิจฉัยกระดูกมากมายแล้วก็ตาม แต่การได้สัมผัสโดยตรงระหว่างการรักษาจะบอกได้ดีที่สุด แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นไปตามแผนการรักษา

ระบบรากฟันเทียมแบบ ProArch/ALL ON 4 ดีอย่างไร?
- ส่งเสริมบุคคลิกภาพ
- ทดแทนฟันได้ทันที
- ระยะเวลาในการรักษาโดยรวมสั้นลง
- หลีกเลี่ยงการปลูกกระดูก
ราคารากเทียมระบบ ProArch/All on 4
ที่ BIDH เรามีข้อเสนอค่าใช้จ่ายเป็นแพคเกจ โดยรวมค่ายาชา ค่าหัตถการทันตแพทย์รวมถึงฟันปลอมเรียบร้อย โดยดังนี้ :
- ProArch Straumann ใช้รากฟันเทียม SLActive
และไม่นานมานี้ทาง Straumann ได้เปิดตัวรากฟันเทียมรุ่นใหม่ BLS SLActive ซึ่งเรามีให้บริการแล้ว รากฟันเทียมรุ่นใหม่นี้ได้พัฒนาให้การเหนี่ยวนำการสร้างกระดูกมายึดติดกับรากฟันเทียมได้ดียิ่งขึ้นไปอีก

ใส่ฟันปลอมทั้งขากรรไกรบนรากฟันเทียมพร้อมใช้งานได้ทันทีกับ ProArch/All-on-4
- ถ่ายภาพรังสี2มิติ/3มิติ
- ปลูกกระดูก(ถ้าจำเป็น)
- ให้ยาคลายความกังวล(ถ้าต้องการ)
- ฝังรากฟันเทียม 4 ราก +แกนฟันเทียมแบบปกติ 2 ตัว+แกนฟันเทียมแบบเอียงทำมุม 2 ตัว+ฟันปลอมทั้งขากรรไกร+ยาชาเฉพาะที่
เปลี่ยนชุดฟันปลอมจากฐานอะคลิลิคเป็นอะคลิลิคพร้อมโครงสร้างโลหะ(ทางเลือกที่แนะนำ)
- ถ่ายภาพรังสีพาโนรามิก
- เปลี่ยนแกนฟันเทียมใหม่ +ฟันปลอมทั้งขากรรไกรอะคลิลิกพร้อมโครงสร้างโลหะ
จำนวนรากฟันเทียมที่ใช้ในระบบ ProArch/All on 4, 5 หรือ 6
เมื่อคุณอ่านเรื่องการทำ ProArch/All-on-4 บางครั้งคุณอาจเห็นการฝังรากฟันเทียมในจำนวนที่มากขึ้นเช่น All-on-5,All-on-6 ในเคส All-on-5 นั้น รากฟันเทียม3รากจะถูกฝังด้านหน้า และอีก2รากจะถูกฝังเป็นมุมเอียง45องศาจากทางด้านหลัง และใน All-on-6 รากฟันเทียม4รากจะถูกฝังด้านหน้าและอีก2รากจะถูกฝังเป็นมุมเอียง45องศาจากทางด้านหลัง
ไม่ว่าทันตแพทย์เฉพาะทางรากฟันเทียมหรือศัลยแพทย์ช่องปากจะแนะนำรากฟันเทียม 4,5หรือ6ราก จะขึ้นอยู่กับปัจจัยเกี่ยวกับกระดูกของคุณ แรงกัดหรือชนิดของฟันปลอมที่คุณเลือกนั่นเอง โดยปกติขากรรไกรบนจะต้องใช้จำนวนรากฟันเทียมที่มากกว่าเช่น5,6รากเทียมเมื่อเทียบกับขากรรไกรล่างที่อาจใช้แค่4รากเทียม และหากคุณต้องการใช้ฟันปลอมเซรามิกเมื่อความแข็งแรงและสวยงามถึงขีดสุด ก็จำเป็นต้องเพิ่มจำนวนรากฟันเทียมเป็น5-6รากดพื่อรับน้ำหนักของโครงโลหะและเซรามิกที่ใช้ทำฟันปลอม
ชนิดของฟันปลอมที่ใส่บนรากเทียมระบบ ProArch/All-on-4
มีวัสดุสำหรับทำฟันปลอมให้เลือก3แบบดังนี้ :
- อะคลิลิกแบบเสริมความแข็งพิเศษ
- อะคลิลิกบนโครงโลหะ
- เซรามิกบนโครงโลหะ
ฟันปลอมที่ใส่ทันทีหลังฝังรากฟันเทียมโดยปกติเราจะใช้อะคลิลิกแบบเสริมความแข็งพิเศษ มีน้ำหนักเบาและแรงกัดที่น้อย เพื่อลดแรงกระทำต่อรากฟันเทียมที่เพิ่งฝังใหม่ๆ เพื่อรอให้กระดูกยึดติดกับรากฟันเทียม
คุณสามารถใช้ฟันปลอมชุดแรกไปเรื่อยๆตราบที่การใช้งานยังปกติอยู่ โดยทั่วไปเราจะเริ่มเปลี่ยนเป็นฟันปลอมอะคลิลิกบนโครงโลหะหลังการฝังรากฟันเทียมไปแล้ว 6เดือนขึ้นไปเนื่องจากแข็งแรงและใช้งานได้ดีกว่า
ในบางราย เลือกที่จะเปลี่ยนเป็นฟันปลอมเซรามิกบนโครงโลหะ คือจะมีโตรงโลหะเพื่อไปเชื่อต่อกับรากฟันเทียมและมีฟันเป็นเซรามิกบนโครงโลหะอีกที ซึ่งไม่ใช่แค่ความแข็งแรง แต่ยังได้ความสวยงามและเคี้ยวอาหารได้ดีกว่าด้วย ซึ่งถ้าคุณคิดว่าจะใช้ฟันปลอมแบบนี้ตุณต้องมีหลักยึดที่เพียงพอที่จะรับน้ำหนักและแรงกัดที่สูงได้ ซึ่งทันตแพทย์ก็จะฝังรากฟันเทียมมากขึ้นเป็น5รากหรือมากกว่าเพื่อรองรับแผนการรักษานี้ตั้งแต่เริ่มต้น
เลือกทำรากเทียมที่ไหนดี
เมื่อคุณจำเป็นต้องทำรากเทียม นั้นคือเหตุผลว่าทำไมคุณควรเลือกเรา : แผนกทันตกรรมรากฟันเทียม โรงพยาบาลฟัน BIDH

ทันตแพทย์เฉพาะทางด้านทันตกรรมรากฟันเทียมและทันตกรรมประดิษฐ์ของเรา แต่ละท่านมีประสบการณ์ในสาขาเฉพาะทางมามากกว่า10ปี ได้วุฒิบัติการยอมรับความชำนาญจากต่างประเทศอาทิ เยอรมัน อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ บางท่านยังเป็นวิทยากร อาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัยชั้นนำต่างๆ ทีมทันตแพทย์ของเราชำนาญการบูรณฟันทั้งปาก และเคสที่ยุ่งยากซับซ้อนมามากมายทั้งในผู้ป่วยไทยและต่างชาติ โรงพยาบาลทันตกรรมกรุงเทพBIDHยังเป็นสถาบันการพัฒนาองค์ความรู้ เปิดสอนเทคนิคต่างๆในการรักษาด้วยรากฟันเทียม ซึ่งมีความร่วมมือกันกับมหาวิทยาลัยในการพัฒนาสู่ความเป็นเลิศทางทันตกรรม

แผนกทันตกรรมรากฟันเทียมของเราเป็นผู้นำในด้านรากฟันเทียม ศูนย์รากฟันเทียมของเราผ่านการให้การรักษารากฟันเทียมมาแล้วหลายแสนรากฟันเทียม ทั้งรากฟันเทียมเดี่ยวๆไปจนถึงรากฟันเทียมทั้งปาก ได้รับรางวัลผู้ให้บริการรากฟันเทียมจากบริษัทรากฟันเทียมStraumann นอกจากนี้แล้ว ทีมทันตแพทย์รากฟันเทียมของเรายังอยู่ในสมาคมรากฟันเทียมนานาชาติและบางท่านยังเป็นวิทยากรระดับสูงของทางสมาคมด้วย แผนกทันตกรรมรากฟันเทียมของเราอยู่เหนือมาตรฐานระดับโลก โดยผมสำเร็จของการรักษาที่มากกว่าร้อยละ95 ซึ่งเราเลือกใช้รากฟันเทียมที่นำเข้าจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ สวีเดน และสหรัฐอเมริกา ให้การรักษาโดยทันตแพทย์ในราคาที่สมเหตุสมผล

หากคุณมีความกังวลหรือหวาดกลัวความเจ็บปวดและการทำฟัน เรามีการรักษาภายใต้การดมยาสลบ ให้คุณสามารถรับการรักษาต่างๆได้จบภายในครั้งเดียว ทางโรงพยาบาลทันตกรรมกรุงเทพBIDHยังมีทางเลือกในการลดความกังวลในระดับอื่นๆให้กับคุณ เช่นการให้ยาทางหลอดเลือดดำ ซึ่งจะทำให้คุณผ่อนคลายและรู้สึกกึ่งหลับกึ่งตื่น ซึ่งคุณจะได้รับการดูแลอย่างละเอียดตลอดการรักษาโดยวิสัญญีแพทย์และพยาบาลวิชาชีพ

โรงพยาบาลทันตกรรมกรุงเทพและศูนย์ทันตกรรมในเครือ เป็นกลุ่มให้บริการทางทันตกรรมกลุ่มแรกที่ให้การบริการครบวงจร ทั้งห้องปฏิบัติการรากฟันเทียมระบบดิจิตัล เริ่มจากการถ่ายภาพรังสีระบบดิจิตัล การใช้คอมพิวเตอร์กำหนดตำแหน่งและทำเครื่องมือช่วยฝังรากฟันเทียมให้ตรงตามตำแหน่ง รวมทั้งยังมีการใช้กล้องแสกนช่องปากและกลึงครอบฟันเซรามิกบนรากฟันเทียม ทั้งหมดทำโดยระบบดิจิตัล เราเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งที่สามารถผลิตแกนฟันเฉพาะบุคคลบนรากฟันเทียมStraumannได้และเซรามิคคุณภาพสูง

ในฐานะโรงพยาบาล เราควบคุมเข้มงวดในการทำปราศจากเชื้อ ป้องกันการติดเชื้อเป็นข้อบังคับพื้นฐานของเรา เราไม่เป็นแค่โรงพยาบาล แต่เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางทางทันกรรม โครงสร้างอาคารของเราได้รับการออกแบบเพื่อให้สอดคล้องกับระบบมาตรฐานต่างๆ เราปฏิบัติตามมาตรฐานระดับนานาชาติ (Joint Commission International :JCI และ International Standard Organization :ISO) โรงพยาบาลทันตกรรมกรุงเทพBIDH เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเฉพาะทางทางทันตกรรมแห่งแรกในประเทศไทย

โรงพยาบาลทันตกรรมกรุงเทพBIDH เป็นหนึ่งในกลุ่มเครือข่ายทันตกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ระบบบริหารจัดการและข้อมูลของเราโปร่งใส เครื่อข่ายผู้ให้บริการทางทันตกรรมของเราได้รับรางวัลดีเด่นทั้งศูนย์ทันตกรรมในกรุงเทพ เชียงใหม่และภูเก็ต เราก่อตั้งมานานกว่า10ปี เติบโตจนมาถึงโรงพยาบาลทันตกรรมกรุงเทพBIDH หมายถึงเรามีห้องปฏิบัตการและวัสดุทางทันตกรรมที่ดีที่สุด และยังรู้วิธีการบริหารจัดการเพื่อช่วยให้ระบบทันตกรรมในกลุ่มของเราก้าวหน้าไปด้วยกัน
ปรึกษาทันตแพทย์รากเทียมเบื้องต้นฟรี!
ทำนัดล่วงหน้าเพื่อวางแผนการรักษากับทันตแพทย์ของเรา โดยไม่มีข้อผูกมัดในการรักษา มาลองดูว่าแผนการรักษารากฟันเทียมแบบไหนเหมาะกับคุณ
สรุป
รากฟันเทียมระบบ All-on-4/ProArch เป็นที่นิยมอย่างมากในการทดแทนฟันทั้งขากรรไกรและสามารถใส่ฟันปลอมได้ทันที ทำให้ช่วงรอยต่อระหว่างฟันธรรมชาติเป็นฟันปลอมสั้นที่สุด มีการทำการรักษารูปแบบนี้มานานกว่า 18 ปี แล้วและผลสำเร็จการรักษาเป็นที่น่าพอใจมาก
ระบบ ProArch/All on 4 จะมีการเอียงรากฟันเทียมหลังมาฝังทางด้านหน้าเพื่อใช้ประโยชน์จากกระดูกบริเวณฟันหน้าที่มักจะมีมากกว่าฟันหลัง เนื่องจากมีการกรอปรับแต่งกระดูกให้เรียบเสมอกันก่อนฝังรากเทียม รากฟันเทียมทั้ง 4 จึงมีเสถียรภาพเพียงพอในการรองรับฟันปลอมทั้งขากรรไกรแบบติดแน่นได้ทันที ช่วยให้การบดเคี้ยว พูดคุย และบุคคลิกดีขึ้นได้ทันที ระยะเวลาในการรักษาโดยรวมจะเร็วกว่าการฝังรากฟันเทียมรูปแบบอื่นๆ
ค่าใช้จ่ายการทำ ProArch/All-on-4 ที่โรงพยาบาลฟัน BIDH มีให้เลือกแบบจำนวนรากฟันเทียม 4, 5, 6 รากรวมฟันปลอม ค่าหัตถการและยาชาแล้ว ค่าใช้จ่ายรวมจะแบ่งการชำระเป็น2ครั้ง ครั้งแรกคือตอนฝังรากฟันเทียมและใส่ฟันปลอมชุดแรก และรอหลังจากนั้นอีก6เดือนกลับมาเปลี่ยนเป็นฟันปลอมชุดถาวรที่แข็งแรงกว่าและสวยงามกว่าเพื่อการใช้งานในระยะยาวต่อไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรากฟันเทียมเพื่อทดแทนฟันในแบบอื่นๆ